Check Yourself: Get Tested
(บทความภาษาไทยอยู่ด้านล่าง)
Every year on June 27th, people celebrate National HIV Testing Day! Let's join together to educate and encourage each other to #GetTested.
So, why should I get tested?
In 2014, there were 3,393 new cases of HIV infection reported in Malaysia. About 34.3% of reported infections are amongst young people aged 13 to 29 years. According to the Malaysian Aids Council, an estimated of 93,089 people are living with HIV in Malaysia. The mode of transmission of HIV via Sexual Transmission is on a rampant increase as compared to IDU. In fact, 78% of the HIV cases are contributed via Sexual Transmission (Source: Disease Control Division, Ministry of Health)
Let’s change that. Together we can educate ourselves, our partners, and our communities how to play safe. Today is a great day to #GetTested.
Now, what is HIV again?
HIV stands for human immunodeficiency virus. If left untreated, HIV can lead to the disease called AIDS. Being HIV positive is not the same as having AIDS. Many people who are living with HIV don't get sick for several years. Over years HIV slowly wears down the immune system. Common illnesses that usually don't cause any problems can make you very sick, or kill you, if your immune system is damaged.
There is still no cure, but due to improved treatments, people with HIV are now living longer and healthier lives than ever before. But the only way to get treatment if you've been infected is to Get Tested. And no matter what your HIV status, take steps to protect yourself and your partners.
How do I get tested?
Visit your local health center or clinic, and talk to your doctor. Alternatively, PT Foundation offers anonymous & confidential HIV screening and counselling. You may visit their website for more details.
HIV testing may involve obtaining blood or oral fluid for a rapid test or sending blood or oral fluid to a laboratory. The type of routine HIV tests most places offer are called HIV antibody tests. They detect HIV antibodies, not the actual HIV virus. The human immune system creates HIV antibodies as a response to HIV infection. It usually takes anywhere from 10 days to 3 months from the day of infection, perhaps longer in some cases, for the body to create enough antibodies to be detected in a blood test. Learn more here and here.
What do I do if I find out I’ve been infected?
Don’t panic! First, be proud that you had the courage to get tested. Talk to your doctor about your treatment options, and follow them exactly as directed. Talk to your partners, and encourage them to get tested as well.
What is stigma ?
Stigma is a negative association that people have with something. Sometimes our culture tries to stigmatize or shame people for having sex in the first place, or if they have been infected with an HIV or another sexually transmitted infection. Don’t let stigma prevent you from getting tested, treated, or talking to your partners about safer sex.
What are PrEP and PEP ?
PrEP is a daily pill that people can take to lower their chances of getting infected with HIV. PrEP + condoms, better together! Remember, PrEP doesn’t protect against other STIs, so condoms are still important. Talk to your health care provider to see if PrEP is right for you. Click here for more information.
PEP = post-exposure prophylaxis. It means taking antiretroviral medicines after being potentially exposed to HIV to prevent becoming infected. If you think you’ve been exposed to HIV, visit your doctor as quickly as possible.
The bottom line: if you are having sex, using a condom is the best way to protect yourself and your partner from HIV.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เป็นห่วงสุขภาพ ต้องไปตรวจ
ทุก ๆ ปี ในวันที่ 27 มิถุนายน จะมีการเฉลิมฉลองวันตรวจ HIV มาร่วมให้ความรู้และกระตุ้นให้ทุกคนไปตรวจกันเถอะ #GetTested
แล้วทำไมต้องไปตรวจด้วย?
ในปี 2014 พบผู้ติดเชื้อ HIV รายใหม่ในมาเลเซียถึง 3,393 ราย ราว 34.3% ที่ได้รับการรายงานเป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 13 ถึง 29 ปี ตามข้อมูลของสภาเอดส์แห่งมาเลเซีย (Malaysian Aids Council) มีผู้ติดเชื้อ HIV ราว 93,089 อาศัยอยู่ในประเทศ อัตราการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมากหากเทียบกับการติดเชื้อผ่านเข็มฉีดยา นอกจากนี้ ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวน 78% เป็นผู้แพร่เชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์
(ข้อมูลจากฝ่ายควบคุมโรค กระทรวงสุขภาพ ประเทศมาเลเซีย)
มาร่วมเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยกัน บอกตัวเอง คู่นอน และสังคมให้เรียนรู้ที่จะสนุกอย่างปลอดภัย วันนี้เป็นวันที่เราจะไปตรวจสุขภาพกัน #GetTested
แล้ว HIV คืออะไรกัน
HIV คือภาวะที่เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หากปล่อยไว้ไม่ตรวจ เชื้ออาจนำไปสู่โรคที่เรียกว่าเอดส์ได้ การตรวจ HIV แล้วมีผลเลือดบวกนั้นไม่เหมือนกับการเป็นโรคเอดส์ เพราะผู้ที่มีเชื้อ HIV อาจไม่ป่วยเลยเป็นระยะเวลาหลาย ๆ ปีจนเชื้อไปลดภูมิคุ้มกันในร่างกาย หากระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลาย อาการเจ็บป่วยโดยทั่วไปอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ หรือไม่ก็เป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว
แม้ยังไม่มียารักษาโรคนี้ แต่ด้วยความก้าวหน้าในทางการแพทย์ ผู้ที่มีเชื้อ HIV สามารถมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ทางเดียวที่จะสามารถเข้ารับการรักษาได้ในกรณีที่ติดเชื้อแล้วคือต้องไปตรวจเสียก่อน ไม่ว่าผลตรวจเชื้อ HIV จะเป็นอย่างไร คุณต้องพยายามป้องกันตัวเองและคู่ของคุณเสมอ
แล้วจะไปตรวจยังไง
คุณสามารถเข้าไปพูดคุยกับคุณหมอ ณ ศูนย์สุขภาพหรือคลินิกใกล้บ้านได้ ซึ่งสามารถให้คำปรึกษาและตรวจ HIV แบบนิรนามได้ โดยทางศูนย์จะเก็บข้อมูลเป็นความลับ
การตรวจ HIV จะต้องนำเลือดหรือของเหลวในช่องปากไปตรวจอย่างคร่าว ๆ ก่อนนำส่งไปยังห้องปฏิบัติการ การตรวจ HIV โดยทั่วไปที่เปิดให้บริการจะเป็นการตรวจหา antibody โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจจับ antibody ของ HIV ไม่ใช่ตัวเชื้อโดยตรง เพราะร่างกายของมนุษย์จะผลิตภูมิคุ้มกันเชื้อ HIV ขึ้นมาเพื่อตอบสนองกับการติดเชื้อ โดยมากจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน ถึง 3 เดือนหลังจากวันที่ได้รับเชื้อ หรืออาจนานกว่านั้นสำหรับบางคน เพื่อให้ร่างกายสร้าง antibody ขึ้นมามากพอที่จะสามารถตรวจเจอในการตรวจเลือดได้
ต้องทำอะไรต่อหากพบว่าติดเชื้อ
อย่าเพิ่งตกใจ ก่อนอื่นคุณต้องภูมิใจที่คุณมีความกล้าหาญพอที่จะไปตรวจสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เรื่องการรักษาและทำตามที่แพทย์แนะนำ คุยกับคู่ของคุณและชักชวนให้ไปตรวจด้วย
ตราบาปคืออะไร
ตราบาป คือ ความคิดที่เชื่อมโยงกับสิ่งแย่ๆ ที่มนุษย์มีกับอะไรบางอย่าง ในหลายๆ ครั้งที่วัฒนธรรมของเราก็พยายามจ้องจะสร้างตราบาปและประณามผู้คนที่อยากร่วมรักกัน หรือยิ่งหนักกว่าหากคนเหล่านั้นติดเชื้อ HIV หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ จงอย่าให้ตราบาปนี้ทำให้คุณไม่กล้าไปตรวจ เข้ารับการรักษา หรือแม้แต่จะพูดคุยกับคู่ของคุณเรื่องการมีเพศสัมพันธ์แบบปลอดภัย
PrEP และ PEP คืออะไร
PrEP คือ ยาที่ต้องรับประทานทุกวันเพื่อให้มีโอกาสติดเชื้อ HIV น้อยลง ยิ่งใช้ถุงยางอนามัยร่วมกับ PrEP ยิ่งดี และต้องอย่าลืมว่า PrEP นั้นไม่ใช่ยาที่จะสามารถป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ได้ ฉะนั้น ถุงยางอนามัยยังเป็นสิ่งจำเป็น ปรึกษากับศูนย์สุขภาพว่ายา
PrEP เหมาะกับคุณหรือไม่ กดเพื่ออ่านข้อมูลเพิ่มเติม (LINK: http://www.cdc.gov/hiv/basics/prep.html)
PEP คือ ยาต้านเชื้อ HIV หลังได้รับเชื้อแล้ว หมายความว่า ยานี้เป็นยาที่ต้องทานหลังจากที่มีแนวโน้มว่าได้ไปรับเชื้อ HIV มาแล้วและทานเพื่อไม่ให้ร่างกายติดเชื้อนั่นเอง หากคุณคิดว่าคุณได้รับเชื้อ HIV ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ข้อสำคัญก็คือ หากมีเพศสัมพันธ์ การสวมถุงยางอยามัยเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกันเชื้อ HIV ทั้งตัวคุณและคู่ของคุณ